เพย์ออลเร่งปั้นแบรนด์สู่สากล
ปรับทัพรับยอดโต 1,000 อีก2 ปี
เพย์ออลชูผลสำเร็จรอบ 1 ปี ยอดโต 200% รับรายได้ 250 ล้านบาท เดินหน้าขยายองค์กรเชิงรุกด้วยการตั้งนายสมคิด ลวางกูร นักสร้างแบรนด์มืออาชีพและผู้บริหารสนามบินนั่งแท่นกรรมการบริหารคนใหม่ รวมถึงการทุ่มงบ 100 ล้านบาท หนุนแผนการตลาด รองรับการเติบโตในอนาคตด้วยการขยายพื้นที่สำนักงานเพิ่มเป็น 5 เท่า และดึงระบบ MLC เข้ามาช่วยต่อยอดธุรกิจ และใช้ซอฟแวร์เข้ามาช่วยบริหารจัดการด้านการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ระบุเพย์ออลยังตอกย้ำแนวความคิดเดิม เปลี่ยนรายจ่ายเป็นรายรับ มั่นใจแผนรุกตลาดและการสร้างแบรนด์อย่างต่อเนื่องจะผลักดันให้ แอพพลิเคชั่นเพย์ออลขึ้นสู่แอพในระดับสากลได้ในเร็วๆนี้ พร้อมมีรายได้ 1,000 ล้านบาท ใน 2 ปี
นายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากเปิดดำเนินธุรกิจครบรอบ 1 ปี ก็ได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาดโดยเพย์ออลมีอัตราการเติบโตแบบก้าวกระโดดมากถึง 200% คิดเป็นรายได้อยู่ที่ 250 ล้านบาท จากจำนวนสมาชิกที่เพิ่มขึ้นกว่า 1แสนราย ซึ่งในจำนวนดังกล่าวมีผู้ที่ขึ้นตำแหน่ง รูบี้ 2 ราย รับรายได้กว่า 1 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีตำแหน่งแพลตตินั่ม 5 ราย ที่รับรายได้ 7-8 แสนบาทต่อเดือน และตำแหน่งโกลด์ 1 ราย รับรายได้ 1 แสนบาทต่อเดือน และเพย์ออลคาดว่าจะมีผู้ที่ขึ้นตำแหน่งเพรสซิเดนท์ไดมอนด์ ที่รับรายได้หลัก 100 ล้านภายในช่วงกลางปี 2560
จากความสำเร็จดังกล่าว เพย์ออลได้เตรียมแผนรองรับการขยายตัวของธุรกิจ ด้วยการปรับโครงสร้างภายในองค์กรใหม่ และได้แต่งตั้ง นายสมคิด ลวางกูร ให้เข้ามาเป็นกรรมการบริหาร หลังจากพิจารณาแล้วว่านายสมคิด เป็นผู้ที่มีความสามารถ เป็นนักสร้างแบรนด์มืออาชีพ และเป็นบุคคลที่เหมาะสม อีกทั้งยังเคยบริหารสนามบินขนาดใหญ่ และทันสมัยที่สุดในโลกจนประสบความสำเร็จติดระดับ World Record มาแล้วถึง 2 แห่ง
นอกจากนี้เพย์ออลยังเตรียมขยายการลงทุนเพิ่มด้วยงบประมาณ 100 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นงบในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ 60% และงบการตลาด 40% รวมถึงการขยายพื้นที่สำนักงานและการบริการเพิ่มเป็น 6 เท่า ของพื้นที่เดิมที่มีอยู่ประมาณ 500 ตร.ม.ในการขยายห้องประชุม ในส่วนของการให้บริการและการต้อนรับ รวมถึงการปรับระบบงานด้วยการใช้ซอฟท์แวร์ เข้ามาช่วยบริหารจัดการแทนคน ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันเพย์ออลยังได้นำระบบ MLC (Multilevel Consumer Network Platform) เข้ามาใช้ในการทำงาน ซึ่งระบบดังกล่าวจะช่วยให้เครือข่ายผู้บริโภคได้รวมกลุ่มกัน และมีความเหนียวแน่นมากขึ้น โดยเฉพาะการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันผ่านแอพพลิเคชั่นเพย์ออลแล้ว จะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนกลับมา ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด แต้มสะสม และหากสมาชิกได้ใช้บริการแอพพลิเคชั่นของเพย์ออลแล้วบอกต่อ จะได้รับค่าแนะนำ ได้รับแต้มจากค่าใช้จ่ายจากคนที่แนะนำ และได้รับรายได้ตามแผนการตลาดของเพย์ออลอีก 7 ช่องทาง
“รายได้ 7 ช่องทางที่ว่าเริ่มจากการสมัครเป็นนักธุรกิจ ที่มีค่าสมัครต่อปีที่ 3,200 บาท และการใช้จ่ายผ่านแอพเพย์ออล ต่อมาจะเป็นค่าแนะนำให้คนอื่นมาใช้แอพเพย์ออล รายได้จากค่าใช้จ่ายของคนทุกคนภายใต้องค์กรของเราเอง รายได้จากส่วนแบ่ง 20% จากรายได้ของกลุ่มเครือญาติที่ได้จากรายได้ของทุกคนภายในองค์กร รางวัลแห่งเกียรติยศ ท่องเที่ยวต่างประเทศ รับรถยนต์ บ้าน และทองคำ รายได้จากทีมโตข้างเดียว เป็นโบนัสพิเศษ และโปรโมชั่นแจกรถยนต์จากการสร้างทีม”
นายรัฐภูมิ กล่าวต่อว่า จุดแข็งของผู้บริโภคหรือสมาชิกที่ใช้แอพพลิเคชั่นเพย์ออล คือผู้บริโภคสามารถเปลี่ยนรายจ่ายให้เป็นรายรับได้ โดยแผนการตลาดของเพย์ออล ถูกออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเอ็มแอลเอ็มระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ที่ออกแบบมาเพื่อสมาชิกเพย์ออลโดยเฉพาะ โดยแผนดังกล่าวเน้นให้ทำงานง่าย และเกิด Passive income นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยด้านเอ็มแอลเอ็มจากทั่วโลกที่พบว่า ผู้นำส่วนใหญ่ 1 คน จะหาเพชรของตัว เองได้ไม่เกิน 2 คน จึงมีการคิดค้นแผนไบนารี (แผนแบบ 2 ขา) ขึ้นมา หลังจากพบว่าแผนแบบเก่าหรือที่เรียกว่าแผนสแตร์สเต็ป (แผนแบบขั้นบันได) ล้าสมัย และมีผู้ประสบความสำเร็จน้อย รายได้ส่วนใหญ่จะไปรวมอยู่ที่ผู้นำเพียงไม่กี่คน
“แผนการตลาดของเพย์ออล สมาชิกทำงานได้ 2 สายงาน คือซ้ายและขวาเท่านั้น ไม่ว่าใครจะมาภายหลังก็สามารถมีคนในสายงานจำนวนมากได้เป็นพัน เป็นหมื่นในเวลาอันสั้น เพราะคนที่อยู่เหนือกว่าทั้งหมดถูกแผนการตลาดเน้นให้ช่วยกันโดยอัตโนมัติ ยกตัวอย่างหากใครมีผู้นำอยู่บนสายงาน 1,000 คน และมีสมาชิกอยู่ฝั่งซ้าย ผู้นำก็จะแนะนำคนลงมาได้ไม่ซ้ายก็ขวาเท่านั้น และหากผู้นำโยนไปซ้ายและขวาอย่างละคน ก็จะได้คนมา 1,000 คนฟรีๆ และจากการสมัครจะได้คนละ 35 พอยท์ เท่ากับ 1,000 คูณด้วย35 จะเท่ากับ 35,000 พอยท์ และหากช่วยเพื่อน ทำอีกฝั่งขึ้นมาทุกๆ 200 พอยท์ ซ้ายและขวาบวกกันจะได้เท่ากับ 800 Pa และจะไม่มีการตัดพอยท์ที่ค้างออก”
สำหรับแผนการบุกแอพเพย์ออลไปยังต่างประเทศ ที่ถือเป็นนโยบายสำคัญที่ต้องการให้แอพเพย์ออลเป็นที่รู้จักในตลาดโลก ขณะนี้มีประเทศ สปป.ลาว กัมพูชา เวียดนาม และมาเลเซีย เข้ามาติดต่อแล้ว ซึ่งเพย์ออลอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมของระบบการทำงานให้พร้อม และมีความสมบูรณ์มากกว่านี้ จึงคาดว่าภายในสิ้นปีนี้แอพเพย์ออลจะสามารถใช้บริการได้ที่กัมพูชาเป็นที่แรก โดยจะเป็นธุรกิจด้านการเงินการธนาคารที่จะมาร่วมเป็นพันธมิตร
ปัจจุบันมีพันธมิตรที่ร่วมธุรกิจกับเพย์ออลหลายราย ได้แก่ ธุรกิจด้านการจองตั๋ว, โรงแรม, การสั่งซื้อสินค้าจากทั่วทุกมุมโลก, ดูดวง, การชำระค่าบริการ รวม 1,000 ร้านค้า และล่าสุดอยู่ระหว่างการเพิ่มพันธมิตรรายใหม่เกี่ยวกับคูปอง ส่วนลด ค่าที่พัก และสินค้าดารา รวมถึงการเข้าไปร่วมจับมือกับพันธมิตรอย่าง LAZADA ที่มีร้านค้าเป็นพันธมิตรมากกว่า 1 แสนราย เพย์ออลจึงมั่นใจว่าจากนี้ไปอีก 2 ปี จะสามารถพัฒนาแอพให้มีความแข็งแกร่งในระดับสากล
นายสมคิด ลวางกูร กรรมการบริหาร บริษัท เพย์ออล กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า แนวความคิดที่เข้าร่วมกับเพย์ออลในครั้งนี้ เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในการบริหารงานของประธานและผู้ก่อตั้ง ที่มีความคิดในการช่วยเหลือคนให้มีรายได้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจ และที่สำคัญในการบริหารจัดการที่ได้มีการนำระบบ MCL มาใช้ ในการบริหารธุรกิจ ที่ถือเป็นนวัตกรรมทางการเงินใหม่ล่าสุดที่ได้มีการคิดค้นและนำมาใช้เป็นที่แรกของโลก ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นว่าการนำระบบ MLC มาใช้จะช่วยผลักดันให้เพย์ออลมีรายได้มากถึง 1,000 ล้านบาท ภายใน 2 ปีข้างหน้า