วันนี้มาสเตอร์การ์ดเปิดตัวบริการการชำระเงินแบบไร้สัมผัสผ่านแอพพลิเคชั่น Google Wallet ครั้งแรกในประเทศไทย เพื่อเป็นการเพิ่มทางเลือกในการใช้จ่ายในรูปแบบดิจิทัลให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มสูงขึ้น
ผู้ถือบัตรมาสเตอร์การ์ดของธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และ เคทีซี หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) สามารถผูกบัตรเครดิตของตนไว้ในกระเป๋าเงินดิจิทัล Google Wallet ที่เอื้อให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกข้อมูลบัตรเครดิตของธนาคาร รวมถึงบัตรสมาชิกต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประชำวันและตั๋วเครื่องบิน (boarding passes) ซึ่งทำให้การใช้จ่ายและการชำระเงินเป็นไปอย่างง่ายดายและปลอดภัย
โดยสามารถใช้งานได้ที่ร้านค้าที่รองรับการชำระเงินแบบไร้สัมผัส แอพพลิเคชั่นต่าง ๆ และช่องทางออนไลน์ผ่านโทรศัพท์มือถือทั้งในระบบปฏิบัติการ Android และในอุปกรณ์ WearOS (สมาร์ทวอทช์และในอุปกรณ์พกพาในระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอส) หลังการเปิดตัวครั้งแรกในสิงคโปร์ เวียดนาม ประเทศไทย และมาเลเซียเป็นประเทศต่อไปที่จะเปิดให้บริการชำระเงินผ่านแอพพลิเคชั่น Google Wallet
เดิมประเทศไทยมีระบบการชำระเงินด้วยการใช้เงินสดเป็นหลัก และก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงที่เกิดสถานการณ์โรคระบาดซึ่งเป็นส่วนสำคัญที่เร่งให้เกิดการใช้งานการชำระเงินแบบดิจิทัล คาดมูลค่าการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบดิจิทัลของประเทศไทยจะสูงขึ้นถึง 29.13 พันล้านเหรียญสหรัฐในปีนี้ และนับตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงปี พ.ศ. 2570 การใช้งานระบบการชำระเงินแบบดิจิทัลมีอัตราการเติบโตคิดเป็นร้อยละ 13.51 ต่อปี[1]
นอกจากนี้ ด้วยกระแสของอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง ทำให้ผู้บริโภคชาวไทยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการชำระเงินจากแบบเดิมไปสู่การใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลกันสูงขึ้น เพื่อให้การใช้จ่ายผ่านช่องทางออนไลน์เป็นไปอย่างง่ายดายมากขึ้น ผู้คนมีการใช้งานสมาร์ทโฟนกันอย่างแพร่หลายในชีวิตประจำวัน ทั้งจากการใช้งานบัตรที่จำเป็นต่าง ๆ ไปสู่การใช้กระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อการใช้จ่ายในร้านค้า
จากดัชนีผลสำรวจการชำระเงินล่าสุดของมาสเตอร์การ์ด Mastercard New Payments Index 2022 พบว่าผู้บริโภคในประเทศไทยกว่าร้อยละ 94 ใช้งานการชำระเงินแบบดิจิทัลอย่างน้อย 1 ช่องทาง โดยที่กว่าร้อยละ 63 มีการใช้งานกระเป๋าเงินดิจิทัลเพื่อทำธุรกรรมด้านการเงิน การเปิดตัว Google Pay ในประเทศไทยจะช่วยให้ผู้บริโภคทุกกลุ่มมีทางเลือกในการชำระเงินเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะการเข้าถึงการชำระเงินแบบดิจิทัลที่เหมาะกับความต้องการและไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไปของพวกเขา
เพียงผูกบัตรมาสเตอร์การ์ดไว้บนอุปกรณ์ Android หรือ Wear OS ผู้ถือบัตรสามารถทำการตั้งค่าได้อย่างง่ายดายในครั้งเดียว โดยกรอกรายละเอียดบัตรและรหัสผ่านแบบครั้งเดียว (one-time password) ในแอพพลิเคชั่น Google Wallet และเมื่อข้อมูลถูกบันทึกลงไปแล้ว ผู้ถือบัตรสามารถใช้งานการชำระเงินผ่านโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์พกพาเครื่องนั้นได้ในทันที ซึ่ง Google Wallet จะช่วยลดโอกาสในการโจรกรรมด้วยระบบสแกนลายนิ้วมือ สแกนใบหน้า หรือการตั้งค่าด้วยรหัส PIN ในการชำระเงิน
การตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงเปิดแอพพลิเคชั่นและแตะที่ตัวเลือก “ข้อมูลเชิงลึก” หรือ ‘insights’ นอกจากนี้ ผู้ถือบัตรยังสามารถเพิ่มบัตรอื่นๆ ได้ด้วยเช่นกัน อาทิ บัตรสะสมคะแนน และ ตั๋วเครื่องบิน ผู้ถือบัตรยังคงสามารถเพลิดเพลินไปกับการสะสมคะแนนและได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษทั้งหมดจากธนาคารที่ร่วมรายการมอบให้เสมือนการทำธุรกรรมผ่านบัตรทั่วไป ที่มาพร้อมกับความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มากยิ่งขึ้น
การชำระเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลจะดำเนินการผ่านระบบ Digital token ที่ปลอดภัย โดยที่ผู้ใช้งานไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรเพื่อให้ข้อมูลสำคัญ เช่น เลขบัตร และวันหมดอายุแก่ร้านค้า โดยเทคโนโลยีแปลงสินทรัพย์ให้มาอยู่ในรูปแบบดิจิทัลของมาสเตอร์การ์ดที่ชื่อ Mastercard Digital Enablement Service (MDES) จะช่วยเพิ่มการรักษาความปลอดภัยมากขึ้นอีกหนึ่งขั้น พร้อมยกระดับประสบการณ์การชำระเงินที่สะดวกและดียิ่งขึ้น
นางสาวไอลีน ชูว ผู้จัดการประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ มาสเตอร์การ์ด เปิดเผยว่า ประเทศไทยคือตัวอย่างที่ล้ำหน้าของระบบการชำระเงินแบบดิจิทัล เช่นเดียวกันมุมมองของมาสเตอร์การ์ดที่มีต่อการชำระเงินในโลกอนาคต เมื่อพูดถึงการชำระเงินแบบดิจิทัล วิธีการจัดการทางการเงินและวิธีการชำระเงินในการซื้อสินค้าของผู้บริโภคชาวไทยเปลี่ยนแปลงไป เช่นเดียวกันกับรูปแบบความนิยมและความคาดหวัง
นายโชค ณ ระนอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการสายบัตรเครดิต ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า ธนาคารกรุงเทพมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งสำหรับความร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดในครั้งนี้ ที่จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านรูปแบบการชำระเงินที่หลากหลายและครบวงจรยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกให้การจับจ่ายของผู้ถือบัตรสะดวกสบาย และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสอดรับกับพฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคในปัจจุบันที่นิยมการซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ ในอนาคตยังมีแผนพัฒนาความร่วมมือระหว่างกันกับมาสเตอร์การ์ดอย่างต่อเนื่อง เพื่ออาศัยความแข็งแกร่งด้านการพัฒนาเทคโนโลยีพร้อมเพิ่มฟังก์ชั่นให้รองรับรูปแบบการชำระเงินได้อย่างหลากหลายและมีความปลอดภัด รองรับการใช้งานของผู้บริโภคในปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มงานการตลาดและสื่อสารองค์กร “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เพื่อรองรับพฤติกรรมการใช้จ่ายที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกเกิดความสะดวก คล่องตัว และมีความมั่นใจยิ่งขึ้นกับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตบนช่องทางดิจิทัล เคทีซีจึงมุ่งพัฒนาระบบเทคโนโลยีและมองหาช่องทางใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง
สำหรับการร่วมมือกับ Google ในครั้งนี้ เคทีซีถือเป็นหนึ่งในบัตรเครดิตรายแรก ที่สามารถรองรับการชำระเงินผ่าน Google Wallet ซึ่งถือเป็นการเพิ่มทางเลือกให้สมาชิกสามารถใช้บริการการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตบนสมาร์ทโฟนระบบแอนดรอยด์และอุปกรณ์พกพา Wear OS ได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยยิ่งกว่าเดิม นอกจากนี้เคทีซียังได้ร่วมมือกับมาสเตอร์การ์ดมอบสิทธิพิเศษให้กับสมาชิกบัตรเคทีซี มาสเตอร์การ์ด ที่ผูกบัตรฯ กับ Google Wallet สามารถแตะจ่ายสะดวก ปลอดภัยด้วย Google Pay ทุกจุดรับชำระเงินที่มีสัญลักษณ์ Contactless ซึ่งเคทีซีเชื่อมั่นว่าการผนึกกำลังครั้งสำคัญนี้จะสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับสมาชิกเคทีซีได้อย่างแน่นอน”