โรงพยาบาลพญาไท 2 เดินหน้าพัฒนาคุณภาพและความปลอดภัย สูงสุดของผู้ป่วยแบบเจาะลึก เน้นผู้ป่วยเป็นศูนย์กลาง ตลอดจนยกระดับมาตรฐานการจัดการ สถานพยาบาล ล่าสุดได้รับการรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลในระดับสากล เจซีไอ ฉบับ 6 (JCI 6th Edition) เป็นโรงพยาบาลแรกและแห่งเดียวในประเทศไทย
นายแพทย์ อนันตศักดิ์ อภัยรัตน์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล พญาไท 2 กล่าวว่า การผลักดันให้โรงพยาบาลพญาไท 2 ได้รับการรับรองมาตรฐาน JCI ฉบับ 6 เป็นหนึ่งในเป้าหมายและนโยบายหลักของแผนการดำเนินธุรกิจปี 2560 – 2561 ที่มุ่งสู่ความเป็นเลิศด้านการแพทย์ หรือ Center of Excellence ยกระดับโรงพยาบาลโดยเน้นการมีผู้ป่วยเป็นจุดศูนย์กลาง ให้บริการดูแลรักษาด้วยคุณธรรมและจริยธรรมการแพทย์ คำนึงถึงสิทธิผู้ป่วย ตลอดจนความเข้มข้นในการรักษาเพื่อให้การรักษาพยาบาลที่ปลอดภัย มีคุณภาพสูงและบริการที่มีความน่าไว้วางใจ ด้วยมาตรฐานสากลเทียบเท่าโรงพยาบาลและสถานพยาบาลนานาชาติทั่วโลก
โรงพยาบาลพญาไท 2 ใช้ระยะเวลาเตรียมความพร้อมการรับรองมาตรฐานสถานพยาบาลระดับสากล ด้วยการใช้มาตรฐาน JCI ฉบับ 6 มากำหนดการพัฒนาคุณภาพการให้บริการรักษาและดูแล สุขภาพ นานกว่า 3 ปี ตั้งแต่การทบทวนและปรับปรุงแก้ไขนโยบายต่างๆ ของโรงพยาบาล เพื่อให้ สอดคล้องตามข้อกำหนด สื่อสารให้บุคลากรรับรู้ เตรียมการด้านโครงสร้างองค์กร กระบวนการ ปฏิบัติ ตลอดจนผลลัพธ์ในการปฏิบัติ สร้างให้เกิดเป็นเป้าหมายร่วมขององค์กร มีการติดตามการดำเนินงานเพื่อรักษาคุณภาพการให้บริการอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ทั้งการตรวจสอบย้อนรอย และการติดตามผ่านตัวชี้วัดต่างๆ อาทิ การระบุตัวผู้ป่วยถูกต้อง (ถูกคน) เพื่อให้ผู้รับบริการสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการรักษาที่ถูกต้องและถูกคน บุคลากรในทีมดูแลผู้ป่วยจะต้องมีการสื่อสารระหว่างกันที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพ เพื่อป้องกันความผิดพลาดจากการสื่อสารข้อมูลการรักษาพยาบาล ผู้ป่วยจะได้รับการดูแลและเฝ้าระวัง หากมีการใช้ยาที่ต้องระมัดระวังสูง ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัดที่ถูกตำแหน่ง ถูกหัตถการ ผู้ป่วย จะปลอดภัยจากการติดเชื้อในโรงพยาบาล โดยมุ่งเน้นให้บุคลากรในทีมดูแลผู้ป่วย ญาติ และผู้ที่มาเยี่ยมผู้ป่วยล้างมืออย่างถูกต้องเพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคไปสู่ผู้ป่วย ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินความเสี่ยงต่อการพลัดตกหกล้มและได้รับการเฝ้าระวัง ในทุกจุดบริการ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดภยันตรายของผู้ป่วยจากภาวะพลัดตกหรือหกล้มในโรงพยาบาล
“การยกระดับมาตรฐานการบริการของพญาไท 2 สู่ฉบับ 6 นี้ นอกจากจะเพิ่มความมั่นใจ ให้ผู้รับ บริการในประเทศแล้ว ยังช่วยชูความเป็นมืออาชีพด้านคุณภาพความปลอดภัยในการดูแลผู้ป่วย เป็นผู้นำด้านบริการสุขภาพของโรงพยาบาลไทยในเวทีโลก เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของประเทศ ให้สูงขึ้น ทั้งด้านการลงทุนจากต่างชาติและการท่องเที่ยว” ผอ.รพ.พญาไท 2 กล่าวเสริม
ทั้งนี้จากข้อมูลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ปี 2559 พบว่าชาวต่างชาติได้เดินทางมาใช้บริการ การแพทย์ ในประเทศไทยมีจำนวนเพิ่มขึ้น โดยเป็นกลุ่มผู้ป่วยในประเทศเพื่อนบ้านคือกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม (CLMV) และจีน จำนวนกว่า 12 ล้านคน โดยมีเมียนมาร์มากที่สุด รองลงมาคือ จีน การขยายตัวของกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ รวมถึงกลุ่มที่เดินทางเข้ามารับการรักษาพยาบาล ทำให้ปัจจุบันสถานพยาบาลระดับโลกต่างๆ ไม่เพียงแค่รักษาโรคเท่านั้น แต่ขยายเข้าไปสู่การส่งเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค และการฟื้นฟูสภาพ ซึ่งโรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่มีความพร้อมในการรองรับจะต้องมีจุดเด่น หรือจุดแข็ง คือการมีบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญ มีเทคโนโลยีและการจัดการที่ได้มาตรฐานสากล มีการบริการที่ครบวงจร ราคาสมเหตุผล
“และที่มากยิ่งขึ้นไปกว่านั้นสิ่งที่โรงพยาบาลพญาไท 2 มีคือการให้บริการแบบไทยเนส ดูแลผู้ป่วย เหมือนการดูแลญาติพี่น้องในครอบครัว ที่ผ่านมาเราเปิดตลาดด้วยการโรดโชว์เข้าร่วมงานต่างๆ ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางและการจัดสัมมนาทางการแพทย์ โดยเชิญผู้ที่สนใจ ทั้งแพทย์และบุคคลทั่วไปในประเทศนั้นๆ เช่นที่ กัมพูชา พม่า บังคลาเทศ เป็นต้น ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการทำตลาด และได้ทำอย่างต่อเนื่อง มากไปกว่านั้นเรายังเน้นในเรื่องของการให้บริการเพื่อการกลับมาใช้ และการบอกต่อของผู้ป่วย โดยปีนี้เรามีอัตราการเติบโตของกลุ่มผู้ป่วยต่างชาติที่สูงถึง 17%”
นอกจากการพัฒนาคุณภาพของโรงพยาบาลให้ดียิ่งๆ ขึ้น เพื่อผู้ป่วยจะมั่นใจในการให้บริการที่แม่นยำและปลอดภัยสูงสุดจากเราแล้ว ผลลัพธ์ที่สำคัญในการพัฒนาองค์กรของเราอีกสิ่งหนึ่งก็คือ การที่บุคคลากรของเราทุกคนทำงานอย่างมีความสุข รักในงานที่ทำ นำไปสู่การให้บริการ ผู้ป่วยอย่างมีประสิทธิภาพ และส่งผลให้เกิดการกลับมาใช้บริการซ้ำ และการบอกต่อแนะนำ