“เอยูเอ” ฉลองความสำเร็จครบ 65 ปี ตอกย้ำความเป็นที่หนึ่งสถาบันสอนภาษาในไทย ชูคอนเซป “จากวันวาน…วันนี้…ถึงวันหน้า ก้าวไปด้วยกันกับเอยูเอ” งัดกลยุทธ์เด็ดปรับหลักสูตรตามความต้องการผู้เรียน ยกเครื่องหลักสูตรใหม่รับปี 2560 เพื่อการเรียนรู้อย่างรอบด้าน และได้ผล เน้นสี่ทักษะหลัก มั่นใจสามารถพัฒนาภาษาอังกฤษคนไทย ก้าวสู่สังคมประชาคมอาเซียน อย่างมีประสิทธิภาพ
นายทิพยรักษ์ สุขุม ประธานกรรมการอำนวยการบริหารสถานสอนภาษาเอยูเอ กล่าวถึงวาระที่สถานสอนภาษาเอยูเอ ดำเนินงานครบรอบ 65 ปี ว่า “สถานสอนภาษาเอยูเอ ถือเป็นสถาบันสอนภาษาอังกฤษแห่งแรกในประเทศไทย ที่คงดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่องยาวนานจนถึงปัจจุบัน และยังถือเป็นสถาบันที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ด้วยหลักสูตรที่เข้มข้น ครอบคลุมทักษะฟัง พูด อ่าน เขียน จึงทำให้นักเรียนที่จบคอร์สไปจากที่เอยูเอมีประสิทธิภาพในการสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี”
หลักสูตรการสอนที่สถานสอนภาษาเอยูเอ ถือเป็นหลักสูตรที่ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์รอบด้านสูงสุด ด้วยการเสริมจุดอ่อนของคนไทยนั่นคือทักษะการฟัง และการพูด พร้อมเสริมความแข็งแรงในทักษะการอ่าน และการเขียน ทำให้ผู้เรียนได้รับการพัฒนาทักษะอย่างเต็มที่ โดยทางสถาบันเน้นการออกแบบหลักสูตรให้เหมาะสมกับผู้เรียนในแต่ละช่วงวัย และยังใช้ผู้สอนที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ (Native Speaker) ที่ผ่านระบบการคัดเลือกของทางสถาบัน ทำให้มั่นใจได้ว่าผู้สอนมีศักยภาพที่พร้อม และมีคุณภาพแน่นอน
ดร.เมทินี พงษ์เวช ผู้อำนวยการบริหารสถานสอนภาษาเอยูเอ เปิดเผยถึงหลักสูตรของทางสถาบันว่า“สถาบันของเรามีการออกแบบหลักสูตรที่หลากหลาย ซึ่งจะดูตามช่วงวัย และความต้องการในการใช้งาน และเรายังรับออกแบบหลักสูตรเพื่อการอบรมเฉพาะสำหรับองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อให้การเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยเราดูแลครอบคลุมตั้งแต่การวิเคราะห์ปัญหา จัดหลักสูตรที่เหมาะสม และวัดประเมินผล แต่ในปี 2560 ทางสถาบันของเราได้จัดระบบหลักสูตร และปรับหลักสูตรใหม่ทั้งหมดให้เกิดความหลากหลาย และทันสมัยมากขึ้น ซึ่งทางเรามั่นใจว่าตอบโจทย์ความต้องการของผู้เรียนอย่างแน่นอน”
หลักสูตรใหม่ล่าสุดของสถานสอนภาษาเอยูเอแบ่งออกเป็น 3 หลักสูตรก็คือ U-Life U-career และ U-Extra โดยหลักสูตร U-Life จะเน้นการพัฒนาทักษะทั้งสี่ด้านอย่างเข้มข้น เหมาะสำหรับบุคคลที่ต้องการพัฒนาภาษาอังกฤษตั้งแต่พื้นฐาน และนักเรียนนักศึกษา และในหลักสูตรนี้ยังมีหลักสูตรเฉพาะสำหรับเตรียมสอบวัดระดับมาตรฐานภาษาอังกฤษอีกด้วย ส่วน U-Career จะเป็นหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อผู้ใช้ภาษาอังกฤษในเชิงธุรกิจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่พอมีพื้นฐานมาบ้าง แต่ต้องการเน้นการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ และยังมีหลักสูตรพิเศษเฉพาะการพัฒนาวิชาชีพด้านบริการ และสาธารณสุข ส่วน U-Extra จะเน้นการเรียนรู้ภาษาอังกฤษผ่านการใช้งานในชีวิตประจำวัน เรียนรู้ผ่านประสบการณ์จริง เพื่อเตรียมพร้อมผู้เรียนให้สามารถสื่อสาร กับชาวต่างชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะอย่างยิ่งกับผู้ที่จะเตรียมความพร้อมเพื่อการศึกษาต่อต่างประเทศ
“นอกจากหลักสูตรที่เข้มข้น ตรงกับความต้องการของผู้เรียนแล้ว อีกสิ่งที่ถือว่าเป็นจุดเด่นของสถานสอนภาษาเอยูเอนั่นคือบริการ และกิจกรรมที่นอกเหนือจากในห้องเรียน ที่จะช่วยฝึกทักษะผู้เรียนอย่างต่อเนื่องทั้ง “English Clinic” บริการตอบปัญหา และแก้ไขข้อข้องใจเกี่ยวกับภาษาอังกฤษที่มีให้บริการฟรีในทุกสาขา และกิจกรรมพิเศษ “AUA Plus” ที่จะช่วยฝึกทักษะผู้เรียนผ่านการสัมมนา เวิร์คชอป และกิจกรรมพิเศษตามเทศกาลร่วมกับเจ้าของภาษา เพื่อให้เกิดสังคมแห่งการเรียนรู้ ไม่ใช่แค่เพียงห้องเรียนเหมือนสถาบันอื่นๆ” ดร.เมทินี กล่าวเพิ่มเติม
แต่ทว่าในปัจจุบันสถาบันสอนภาษาอังกฤษในประเทศไทยก็มีเปิดสอนมากขึ้นทุกปี แต่สถานสอนภาษาเอยูเอก็ยังสามารถยืนหยัดได้มากว่า 65 ปี คุณทิพยรักษ์ สุขุม ได้เปิดเผยถึงเคล็ดลับความสำเร็จของสถานสอนภาษาเอยูเอว่า “นอกจากการออกแบบหลักสูตรให้สามารถพัฒนาทักษะรอบด้าน เหมาะสมกับ การใช้งานและช่วงอายุ ราคาที่ย่อมเยา รวมถึงกิจกรรมพิเศษของเราที่ถือเป็นจุดเด่นแล้ว เรายังปรับตัวให้ทันยุคสมัยมากขึ้น โดยการเปิดช่องทางในการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมทางออนไลน์เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนาพื้นฐานภาษาให้แข็งแรงขึ้น เพื่อการต่อยอดที่รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ทำให้สถานสอนภาษาเอยูเอได้รับความไว้วางใจจากทั้งตัวบุคคล องค์กรทั้งภาครัฐ และเอกชน ทำให้ปีที่ผ่านมามีผู้ลงทะเบียนเรียนกับสถาบันของเรามากกว่า 40,000 ราย ครอบคลุมทั้งกลุ่มนักเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน และคาดว่าในปี 2560 จะมีจำนวนผู้สมัครเรียนกับสถาบันของเรามากขึ้นอย่างแน่นอน”
นอกจากความสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันแล้ว การใช้ภาษาอังกฤษในเชิงธุรกิจก็ถือเป็นประเด็นสำคัญ โดยเฉพาะในประเทศไทยที่ใกล้เข้าสู่การเปิดประชาคมอาเซียน ภาษาอังกฤษจึงกลายเป็นสื่อกลางหลัก ซึ่งทางสถานสอนภาษาเอยูเอเล็งเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้เช่นเดียวกัน
ดร. สุวิทย์ ยอดมณี กรรมการอำนวยการบริหารสถานสอนภาษาเอยูเอ ได้กล่าวถึงการพัฒนาเพื่อการก้าวสู่ประชาคมอาเซียนว่า “ทางสถาบันคำนึงถึงการพัฒนาหลักสูตรให้เหมาะสมกับยุคสมัย โดย เฉพาะในช่วงนี้ที่เราจะก้าวสู่ประชาคมอาเซียน ภาษาอังกฤษจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในภาคธุรกิจ ทางเราจึงได้เปิดรับออกแบบหลักสูตร และอบรมพนักงานให้กับบริษัทต่างๆที่สนใจที่จะอบรมทักษะภาษาอังกฤษแก่พนักงาน เพื่อพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะเราเชื่อว่าการการเรียนรู้ภาษาอังกฤษไม่มีที่สิ้นสุด ไม่ว่าจะเริ่มช้าหรือเร็วก็สามารถเก่งได้ หากตั้งใจ เราจึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถาบันของเราจะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันคนไทยให้พร้อมสำหรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”
สถานสอนภาษาเอยูเอ เปิดให้บริการ 15 สาขาทั่วประเทศ โดยในกรุงเทพมหานครมีทั้งหมด 6 สาขาได้แก่ จามจุรีสแควร์ ศรีนครินทร์ หัวหมาก เมืองทองธานี ซีคอนบางแค และเอสพลานาดแคราย และอีก 9 สาขาในต่างจังหวัดได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ระยอง พัทยา บางแสน อุดรธานี หาดใหญ่ สงขลา และนครปฐม