เนสท์เล่ทุ่มงบ 1,400 ล.
ส่งกาแฟนวัตกรรมใหม่รอบ 15 ปี
เนสท์เล่เปิดศึกครึ่งปีหลัง ลอนช์กาแฟนวัตกรรมใหม่ เบลนด์ แอนด์ บรู ผสมกาแฟคั่วบดครั้งแรกในไทย ตอกย้ำผู้นำเบอร์ 1 กาแฟปรุงสำเร็จด้วยส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 60% เดินหน้าอัดงบ 1,400 ล้านบาท ส่วนโรงงานผลิต และหนุนกิจกรรมการตลาดเพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์อย่างครบวงจร
นางออดรีย์ เลียว ประธานกรรมการและประธานคณะผู้บริหาร เนสท์เล่ อินโดไชน่า กล่าวว่า ในฐานะผู้นำตลาดกาแฟปรุงสำเร็จที่มีส่วนแบ่งการตลาดมากกว่า 60% ในประเทศไทย เนสท์เล่ ได้เปิดตัวนวัตกรรมใหม่ “เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู” ผสมกาแฟคั่วบดครั้งแรกในตลาดเมืองไทย และในตลาดโลก ที่ถือเป็นการยกระดับคุณภาพและรสชาติกาแฟปรุงสำเร็จด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเนสท์เล่
ทั้งนี้การเปิดตัวนวัตกรรมกาแฟใหม่ครั้งนี้ ได้มีการทุ่มงบสูงที่สุดในรอบ 15 ปีของการทำตลาดกาแฟในประเทศไทย ด้วยงบประมาณ 1,400 ล้านบาท โดยแบ่งสัดส่วนเป็นงบลงทุนโรงงานผลิตที่ อ.บางปู จ.สมุทรปราการและจ.ฉะเชิงเทรามูลค่า 800 ล้านบาท และงบการตลาดเพื่อจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายเพื่อสร้างการรับรู้ต่อแบรนด์ มูลค่า 600 ล้านบาท ทั้งการแจกสินค้าทดลองดื่ม 4 ล้านแก้ว ที่ถือเป็นการแจกสินค้าทดลองดื่มมากกว่าปกติที่เคยแจกอยู่ที่ 1 ล้านแก้ว รวมถึงการโฆษณาผ่านสื่อทีวี สื่อโซเชียลมีเดียและกิจกรรมอื่นๆ ในช่วงครึ่งหลังของปี
“ข้อมูลพบว่าคนไทยบริโภคกาแฟประมาณ 200 ถ้วยต่อปี ถือเป็นตัวเลขที่น้อยกว่าคนญี่ปุ่นที่บริโภคกาแฟสูงถึง 400 ถ้วยต่อปี และจากข้อมูลดังกล่าวจึงถือเป็นโอกาสที่ดีที่เราจะเข้าไปขยายตลาดและสร้างตลาดกาแฟปรุงสำเร็จให้เติบโตขึ้นอีกในอนาคต จากปัจจุบันตลาดกาแฟปรุงสำเร็จมีมูลค่า 20,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตที่ทรงตัวประมาณ 0.5% จากสภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวในช่วงที่ผ่านมา”
สำหรับเหตุผลสำคัญ ที่เนสท์เล่เปิดตัวนวัตกรรมกาแฟใหม่ที่ประเทศไทยเป็นรายแรก เนื่องจากตลาดไทยเป็นตลาดสำคัญที่ติด 1 ใน 5 ของตลาดกาแฟโลก อีกทั้งการวิจัย เนสกาแฟ เบลนด์ แอนด์ บรู ผสมกาแฟคั่วบด นั้นได้มีการทำวิจัยที่ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ เพื่อให้ได้กาแฟที่มีรสชาติถูกปากคนไทยซึ่งภายหลังเปิดตัวกาแฟในประเทศไทยแล้ว เนสท์เล่มีแผนที่จะไปเปิดตัวกาแฟ ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นลำดับถัดไป
นาย แวลดดิสลาฟ อังดรีฟ ผู้อำนวยการบริหารธุรกิจผลิตภัณฑ์กาแฟและครีมเทียม บริษัท เนสท์เล่ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า เหตุผลที่เนสท์เล่ยกเลิกกาแฟปรุงสำเร็จ 3 in 1 ที่วางจำหนายมาแล้วหลายปี และไม่ทำตลาดกาแฟปรุงสำเร็จในรูปแบบเดิม ไปพร้อมกับกาแฟนวัตกกรมใหม่ เนื่องจาก กาแฟปรุงสำเร็จ 3 in 1 ได้วางจำหน่ายมานานหลายปี และเพื่อให้เข้ากับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของตลาดกาแฟปรุงสำเร็จ เนสท์เล่จึงได้ตัดสินใจที่จะไม่ผลิตกาแฟปรุงสำเร็จในรูปแบบเดิมอีก พร้อมทั้งเดินหน้าทำตลาดกาแฟนวัตกรรมใหม่ต่อไป ทั้งนี้เพื่อเป็นการขยายฐานตลาด และก้าวตามให้ทันกับความต้องการของผู้บริโภคในอนาคต
อย่างไรก็ตาม เนสท์เล่มีแผนที่จะขยายตลาดกาแฟเบลนด์ แอนด์ บรู ผสมกาแฟคั่วบด รูปแบบกระป๋องในอนาคตหรือไม่นั้น จะมีการพิจารณาอีกครั้ง ภายหลังจากที่มีการเปิดตัวกาแฟปรุงสำเร็จไปแล้วว่าผลการตอบรับในตลาดเป็นอย่างไร