เทพผดุงฯรุกน้ำมะพร้าว “ชาวเกาะ”
อัดงบ 100 ล้านหนุนแข้งลิเวอร์พูล
เทพผดุงมะพร้าว เปิดศึก ตลาดน้ำมะพร้าว ล่าสุดเซ็นสัญญาทีมลิเวอร์พูล 3 ปี ปูพรมน้ำมะพร้าวตราชาวเกาะ ด้วยแพคเกจใหม่ ทีมนักเตะลิเวอร์พูล เตรียมวางขายกรกฎาคมนี้ พร้อมจัดหนักด้วยงบการตลาด 150 ล้านบาท ทำตลาดทั้งในและนอกประเทศ เล็งออกโฆษณาใหม่สิงหาคมนี้ ด้านตลาดหลักคืออเมริกา ยุโรป และออสเตรเลีย ที่มีสัดส่วนยอดขายสูงถึง 90% ขณะที่ตลาดในประเทศ 10% มั่นใจน้ำมะพร้าวชาวเกาะจะสร้างรายได้ให้บริษัทมากเป็นอันดับ 3 ในอนาคต
นายเกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงมะพร้าว จำกัด เปิดเผยถึงแผนการตลาดในปีนี้ว่า ในเดือนกุมภาพันธ์ 2559 ที่ผ่านมา บริษัทได้ทุ่มงบกว่า 100 ล้านบาท ในการเซ็นสัญญาสนับสนุนสโมสรลิเวอร์พูล เป็นระยะเวลา 3 ปี ด้วยการใช้ภาพนักเตะฟุตบอลของสโมสรลิเวอร์พูล บนบรรจุภัณฑ์น้ำมะพร้าวชาวเกาะ ทั้ง 3 รูปแบบ ได้แก่ 1.แบบกล่องยูเอชที 2.แบบขวดพลาสติค และ3.แบบกระป๋อง
ทั้งนี้ เหตุผลหลักที่เลือกสโมสรลิเวอร์พูล เนื่องจากบริษัทเล็งเห็นว่าสโมสรดังกล่าวเป็นสโมสรที่เก่าแก่ และมีแฟนคลับมากที่สุดในโลก อีกทั้งยังมีแฟนคลับในไทยไม่น้อย จึงเป็นที่มาของการสนับสนุนสโมสรดังกล่าว โดยในเบื้องต้นจะใช้งบในการจัดกิจกรรมทางการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศที่ 150 ล้านบาท จัดกิจกรรมชงชิมที่ประเทศอังกฤษและอเมริกา ส่วนในประเทศจะเน้นไปที่บล็อกเกอร์ และมีการชงชิม ที่จะเริ่มวางจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ใหม่ ที่มีรูปนักเตะลิเวอร์พูล ในเดือนกรกฎาคมรวมถึงการออกภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ในเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ บริษัทได้ส่งออกน้ำมะพร้าวชาวเกาะไปยังตลาดต่างประเทศมากถึง 90% และจำหน่ายในประเทศ 10% ซึ่งตลาดหลักคือ อเมริกา, ยุโรป และออสเตรเลีย ส่วนในแถบเอเชีย คือประเทศ ญี่ปุ่น และไต้หวัน นอกจากนี้บริษัทยังรับจ้างผลิตในส่วนของน้ำมะพร้าว ที่ขณะนี้มีสัดส่วนอยู่ที่ 30-40% และในอนาคต คาดว่าสัดส่วนดังกล่าวจะลดลง เนื่องจากสัดส่วนการผลิตน้ำมะพร้าวชาวเกาะที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของช่องทางการจำหน่ายน้ำมะพร้าวชาวเกาะ ปัจจุบันมีจำหน่ายที่ ท้อป มาร์เก็ต, วิลล่า มาร์เก็ต,บิ๊กซี และในเดือนสิงหาคมนี้จะขยายอีกหนึ่งช่องทางคือที่เทสโก้ โลตัส ซึ่งภายหลังจากที่บริษัทมีการบุกตลาดน้ำมะพร้าวชาวเกาะอย่างจริงจัง ในอนาคตบริษัทตั้งเป้ารายได้จากน้ำมะพร้าวจะเป็นไลน์สินค้าดาวรุ่ง หรือมียอดขายเป็นอันดับ 3 รองจากไลน์สินค้าน้ำจิ้มไก่ตราแม่พลอย และน้ำกะทิชาวเกาะตามลำดับ
นายเกียรติศักดิ์ กล่าวว่า ปัจจุบันแบ่งสินค้าออกเป็น 3 กลุ่มหลักได้แก่ 1.กะทิ ในรูปแบบกระป๋อง, ถุงพาสเจอไรส์, ถุงยูเอชที และแบบผง ผัก ผลไม้และไข่นกกระทาบรรจุกระป๋อง เนื้อมะพร้าวอบกรอบ น้ำมะพร้าวบรรจุกระป๋อง วุ้นมะพร้าว และผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดกะทิบรรจุกล่องยูเอชที เป็นต้น 2.เครื่องปรุงอาหารไทยตราแม่พลอย ที่ประกอบด้วย น้ำพริกแกงสำเร็จรูป, ซอสน้ำจิ้ม, น้ำส้มสายชูกลั่น, แกงบรรจุกระป๋องสำเร็จรูป, น้ำพริกเผา, ผงเครื่องปรุง และอื่นๆ 3.ผักและผลไม้บรรจุกระป๋อง ตรายอดดอย ที่ประกอบด้วย ผลไม้บรรจุกระป๋องสำหรับจำหน่ายในประเทศเป็นหลัก
สำหรับภาพรวมบริษัทในปีที่ผ่านมา บริษัทปิดยอดขายทั้งปีได้ 6,000 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนเป็นตลาดส่งออก 80% และในประเทศ 20% และในปีนี้ตั้งเป้าเติบโตที่ 5-10%