“แปซิฟิกา” ฉลองก้าวสู่ปีที่ 14 เปลี่ยนแปลงเพื่อรับการเติบโตของตลาดแฟชั่น
รุกขยายสาขา เจาะตลาดทุกระดับดันยอดขายเพิ่ม 40%
“กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา” ฉลองก้าวเข้าสู่ปีที่ 14 แถลงทุ่มเงินกว่า 200 ล้านบาท เพื่อขยายสาขา, ทำการตลาด, มาร์เก็ตติ้ง ออนไลน์ และพัฒนาระบบบริการลูกค้าสัมพันธ์ (Customer Relationship Management) เพื่อเจาะกลุ่มตลาดแฟชั่นลักซ์ชัวรี โดยตั้งเป้ายอดขายเพิ่ม 40% และคาดหวังรายได้โดยรวมทั้ง 14 แบรนด์ ที่ 1,400 ล้านบาท ภายในปี 2559 นี้
“สำหรับการบุกตลาดแมส แบรนด์ ทางบริษัทวางแผนจะขยายสาขาแบรนด์สินค้า อเมริกัน อีเกิ้ล เอ้าท์ฟิตเตอร์ จากเดิม 5 สาขา เพิ่มเป็น 15-20 สาขา ภายในระยะเวลา 3 ปี โดยล่าสุดเปิดสาขาใหม่ที่แฟชั่น ไอส์แลนด์ และกำลังจะเปิดอีกสาขาที่เทอร์มินอล 21 ในช่วงปลายปีนี้ โดยทางบริษัทคาดว่าจะขยายสาขาไปตามเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ จังหวัดภูเก็ต เป็นต้น ในส่วนของแบรนด์ เครื่องสำอางนิกซ์นับเป็นอีกหนึ่งแบรนด์ในบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของยอดขายสูงเป็นอับดับต้นๆ โดยเติบโตขึ้นเป็น 2 เท่าของทุกปี ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 16 สาขา และตั้งเป้าที่จะขยายเพิ่มอีก 12 สาขา ภายในปลายปีหน้า โดยคาดการณ์ว่าในปีนี้กลุ่มแมส แบรนด์ของบริษัทจะสามารถทำยอดขายได้ 480 ล้านบาท ส่วนตลาดลักซ์ชัวรี และพรีเมียม แบรนด์ นับว่ายังไปได้ดี เนื่องจากมีการสนับสนุนด้านกำลังซื้อจากกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ซึ่งปัจจุบัน เฉลี่ยได้เป็น 40 % ของลูกค้าทั้งหมด โดยทางบริษัทตั้งเป้ายอดขาย ลักซ์ชัวรี แบรนด์และพรีเมียม แบรนด์ อยู่ที่ 75 % ของยอดขายบริษัททั้งหมด”
นายโอภาส กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของ ไอคอน (IKON) ร้านมัลติแบรนด์ที่รวบรวมสินค้าแฟชั่น ไลฟ์สไตล์ ของ กลุ่มบริษัท แปซิฟิกา อาทิ แคมเปอร์, เคดส์, สเปอร์รี่ ฯลฯ ซึ่งหลังจากเปิดมาได้ 2 ปี ก็มีการเจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยไตรมาสที่ผ่านมา ร้านไอคอน สามารถทำรายได้สูงถึง 10 ล้านบาท เนื่องจากร้านดังกล่าวสามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในการเลือกซื้อสินค้าแฟชั่นหลายๆ แบรนด์ได้ภายในร้านเดียว ซึ่งปัจจุบันนี้มีทั้งหมด 5 สาขา และกำลังจะเปิดสาขาใหม่เพิ่มที่ศูนย์การค้า ZPELL ฟิวเจอร์พาร์ครังสิต โดยแต่ละสาขาจะมีการจัดจำหน่ายสินค้าที่แตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะกับกลุ่มลูกค้าในพื้นที่นั้นๆ อย่างไรก็ตามการจะขยายสาขาได้นั้นต้องคำนึงถึงสถานที่และขนาดพื้นที่ ซึ่งแต่ละสาขาจะใช้พื้นที่ประมาณ 70-160 ตารางเมตร และคาดการณ์ว่าจะขยายสาขาไปตามเมืองท่องเที่ยวหลัก อาทิ เมืองพัทยา เป็นต้น
สำหรับกลยุทธ์โดยรวม โอภาส เลวิจันทร์ กล่าวว่า บริษัทได้วางแผนในการพัฒนาบุคลากรและการจัดการระบบภายในองค์กร เพื่อรองรับการเจริญเติบโตของธุรกิจทั้ง 14 แบรนด์ให้แข็งแกร่ง ประกอบกับความต้องการของลูกค้าที่สูงขึ้น บริษัทจึงต้องพัฒนาระบบบริการลูกค้าสัมพันธ์(Customer Relationship Management) เพื่อรองรับทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างประเทศ นอกจากนี้ยังวางแผนเตรียมทุ่มเงิน 60 ล้านบาท ในส่วนของการตลาดและการประชาสัมพันธ์ โดยพุ่งเป้าที่สื่อออนไลน์ เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสาร นอกจากนี้จะขยายช่องทางการขายผ่านทางออนไลน์ โดยเริ่มจาก แบรนด์เครื่อง สำอางนิกซ์ ภายในปีนี้