สุดยอดกูรูด้านการตลาดของไทยตบเท้าขึ้นเวที
Unconventional Media Event : ไอเดียนอกกรอบ มีเดียนอกกฏ ร่วมแชร์ไอเดียเจาะการตลาดเชิงรุก
“รวิศ หาญอุตสาหะ” ผู้ที่พลิกตำนานแป้ง ศรีจันทร์ และ “นุวีร์ เลิศบรรณพงษ์” Head of Invention, Mindshare นำทีมนักการตลาดและกราฟฟิคมีเดียชื่อดัง ทั้ง “ณภัทร ตั้งสง่า” นักเขียนเจ้าของผลงาน “สร้างเงินล้านผ่าน viral clip” เจ้าของ SL PRODUCTION HOUSE STUDIO ผู้จับเงินล้านด้วยการทำ VIRAL CLIP “จิรายุ คูอมรพัฒนะ” และ “โยธา สัมพัสนีธำรง” กราฟฟิกดีไซเนอร์ระดับโลก ร่วมแชร์ไอเดียการเจาะลึกการตลาดเชิงรุก จากการตะลุยหา Creative Content ในกลางมหานครไอเดียระดับโลก ที่ไม่สามารถเสิร์ชหาได้จากในอินเตอร์เน็ต
นางอัญชลี ยุพเมฆ Chief Commercial Officer, GroupM ผู้จัดงานสัมมนาเปิดเผยว่า “ปัจจุบัน โลกเราได้ก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ วิถีชีวิตของคนทั่วไปเปลี่ยนไปมาก ยิ่งในสังคมเมืองจะเห็นได้ชัดว่า สมาร์ทโฟน กลายเป็นปัจจัยสำคัญในการใช้ชีวิต การเข้าถึงข้อมูลข่าวสารหรือบริการต่างๆ สะดวกสบายยิ่งขึ้น ผู้บริโภคมีทางเลือกมากขึ้น และจากการที่โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วนั่นเอง จึงเป็นที่มาของคำถามที่ว่า นักการตลาดอย่างเราจะค่อยๆ หมุนตามโลก หรือ เราจะเป็นคนเปลี่ยนโลก ดังนั้น GroupM จึงจัดงานสัมมนานี้ขึ้น เพื่อร่วมค้นหาคำตอบโดยสุดยอดนักการตลาดของไทย ที่แต่ละท่านได้เปลี่ยนโลกด้วยไอเดียมาแล้ว ดิฉันหวังว่างานสัมมนา The Unconventional Media : ไอเดียนอกกรอบ มีเดียนอกกฏ ในวันนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นไอเดีย พร้อมจุดประกายความคิดให้แก่นักการตลาด รวมถึงน้องๆ นักศึกษาที่สนใจด้านนี้ ให้ร่วมกันขับเคลื่อนและผลักดันวงการการตลาดของไทย ให้ก้าวสู่ระดับสากลต่อไปในอนาคต”
ด้านนายนุวีร์ เลิศบรรณพงษ์ Head of Invention, Mindshare Thailand (WWP group) ผู้เป็นวิทยากรในหัวข้อ Unconventional media : มีเดียนอกกรอบ คือน้ำจิ้มซีฟู้ดที่เพิ่มพลังไอเดียให้ครบรส แซ่บยิ่งกว่าเคย กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราจะเห็นได้ว่า เทรนด์ของมีเดียในปัจจุบันเปลี่ยนไปเยอะมาก อย่างที่นิวยอร์ค 80% เป็นภาพเคลื่อนไหวหมด ตามร้านอาหาร หรือเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง จะไม่มีภาพโปสเตอร์รูปสวยๆ ติดอยู่นิ่งๆ อีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็นจอภาพ แสดงกระบวนการ ขั้นตอน วิธีการแทน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เทรนด์ของการเล่าเรื่องหรือ Storytelling ที่กระชับฉับไวในสื่อออฟไลน์กำลังเติบโตขึ้นพร้อมๆ กับการก้าวไปข้างหน้าของสื่อออนไลน์ ดังนั้นวิธีการคิดคอนเทนต์ของคนทำมีเดียในปัจจุบันจำเป็นจะต้องเปลี่ยนแปลงด้วยเช่นกัน ซึ่งโจทย์สำคัญคือเราจะต้องสร้างคอนเทนต์ที่สื่อความรู้สึกออกมาให้ได้ แต่ทำอย่างไรที่จะทำให้สื่อธรรมดาเหนือกว่านั้น ซึ่งเคล็ดลับสำคัญคือการที่คอนเทนต์นั้นสามารถ Touchหัวใจของกลุ่มเป้าหมาย ผมเปรียบคอนเทนต์เหมือนกับน้ำ จะน้ำเปล่าหรือกาแฟ แต่ต้องอยู่ในภาชนะที่ถูกต้องเหมาะสม เช่นเดียวกับคอนเทนต์ที่อยู่บนแพลตฟอร์มที่คู่ควรนั่นเอง”
นายณภัทร ตั้งสง่า CEO of S.L. Studio and Director นักเขียน เจ้าของผลงาน “สร้างเงินล้านผ่าน viral clip” ผู้จับเงินล้านด้วยการทำ VIRAL CLIP วิทยากรในหัวข้อ Creative content via viral marketing : ไอเดียเจ๋งๆ ต้องรู้จักสร้างช่องทางในการกระจายเหมือนพลุ Countdown ที่ Times Square กล่าวว่า “Viral Clip เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะการเล่าเรื่องกับเทคโนโลยี คีย์เวิร์ดที่ชัดเจนและคอนเทนต์ที่น่าสนใจ บวกด้วยเทคนิคการนำเสนอที่น่าดึงดูดใจ เป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เกิดการแชร์ต่อกัน ไวรัลต้องไวเล่าและเล่าไว เล่าให้เข้าใจได้ง่าย กระชับและตรงจุด Digital Content จะควบคู่ไปกับ Digital Marketing เสมอ จริงๆ แล้วการทำ Viral Clip ให้โดนใจนั้น มีองค์ประกอบหลายปัจจัย แต่หลักๆ คือ คอนเทนต์และการสื่อสารที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย คอนเทนต์ที่ดีจะต้องทำให้เกิดการตั้งคำถาม “แล้วยังไงต่อ?” ซึ่งตรงนี้เราต้องวิเคราะห์ออกมาให้ได้ เพื่อจะหาช่องทางการสื่อสารที่ตรงทาร์เกตกรุ๊ป สูตรสำเร็จ Viralคือ Idia + Value + Content เมื่อเกิดการแชร์แล้ว ก็จะเหมือนพลุที่จุดติดและกระจายออกไปเป็นวงกว้าง ”
นางสาวจิรายุ คูอมรพัฒนะ และ นายโยธา สัมพัสนีธำรง กราฟฟิก ดีไซเนอร์ระดับโลก ที่มีผลงานตีพิมพ์ใน The New York Times จาก Food Blogger : We are Kin Kin วิทยากรทั้งสองท่าน ได้นำประสบการณ์จากการทำงานมาแชร์ในหัวข้อ Creative storytelling ไอเดียที่น่าสนใจต้องคู่กับการถ่ายทอดอย่างมีศิลปะ ได้ให้คำจำกัดความว่า “การสร้างตัวตนในโลกโซเชียลจะต้องมีเอกลักษณ์และชัดเจน โดยอาจเริ่มจากสิ่งที่ชอบ ดังนั้น การสร้างตัวตนผ่านภาพถ่ายให้สามารถเล่าเรื่องได้ จะต้องประกอบกับคอนเทนต์ที่น่าสนใจและเป็นไปในทิศทางเดียวกันและถ่ายทอดอย่างมีศิลปะ ซึ่งเราต้องกำหนดการเล่าเรื่องอย่างมีสไตล์ของตัวเอง การนำไอเดียมาใส่ในภาพ คือการจัดวางองค์ประกอบและหามุมมองที่จะถ่ายทอดออกมา ดังนั้น การเปิดประสบการณ์ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะเราจะสามารถสร้างสไตล์ที่โดดเด่นได้ถ้าเราเห็นโลกในหลายๆ มุม เห็นงานหลายๆ รูปแบบ และนำมาปรับจนเกิดสไตล์เป็นของตัวเอง ”
สำหรับหัวข้อสุดท้าย Creativity is everything :ไอเดียมาก่อนทุกอย่างเสมอ โดยคุณรวิศ หาญอุตสาหะ ผู้ที่พลิกตำนานของ ” ศรีจันทร์ “ แป้งเก่าตลับใหม่ กับความสำเร็จในการรีแบรนด์โดยใช้ไอเดียในการขับเคลื่อน ได้นำประสบการณ์มาบอกเล่าให้แก่ผู้เข้าสัมมนา โดยเผยตั้งแต่แนวความคิดและแรงบันดาลใจ รวมถึงการลงดีเทลในส่วนของการวิจัยตลาด “การสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นและแตกต่าง เราต้องมีอินเนอร์ที่แข็งแรง สิ่งสำคัญของการรีแบรนด์แป้งศรีจันทร์คือการลงมือทำ เราเริ่มจากแบรนด์ที่เก่าแก่และไม่มีใครรู้จัก โดยการเปลี่ยนแปลง อันดับแรกคือ เปลี่ยนทัศนคติ เปลี่ยนความคิดของคนทำงาน ให้มีเป้าหมายตรงกัน เราหวังให้ศรีจันทร์เป็นแบรนด์ที่คนไทยใช้แล้วภูมิใจ ซึ่งจากจุดนั้น จึงนำมาวิเคราะห์วิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ดีที่สุด เมื่อ Product ดีแล้ว Branding จึงตามมา การสร้างแบรนด์ให้โดดเด่น ต้องกล้าที่จะนอกกรอบ ใส่ไอเดีย ใส่รสนิยมเข้าไปให้เต็มที่ สำหรับศรีจันทร์คือการพลิกความคิด เรามองมุมกลับสำหรับการคิดเรื่องการนำเสนอแบรนด์ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้เกิดขึ้น โดยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือความชัดเจนในตัวตนของแบรนด์ศรรีจันทร์นั่นเอง”
เรียกได้ว่า การสัมมนา Unconventional Media Event : ไอเดียนอกกรอบ มีเดียนอกกฏ ในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานทั้งนักการตลาดและนักศึกษาจากสถาบันต่างๆ ที่มาร่วมงาน กว่า 500 คน ได้รับทั้งความรู้ประสบการณ์ และความสนุกสนานไปเต็มๆ เลยทีเดียว