“ซีเอ็มโอ” โชว์ผลงานปี 60 ทำรายได้ 1,362.24 ล้าน พลิกกลับมามีกำไร 43.57 ล้านพร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลอีก 0.1 บาท/หุ้น เพิ่มจากที่จ่ายระหว่างกาลไปแล้ว 0.08 บาท/หุ้น ทำให้รวมทั้งปีจ่ายอยู่ที่ 0.18 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทนต่อราคาหุ้น 8.82% ประกาศเดินหน้าเป็นบริษัทฯ ที่จ่ายปันผลสม่ำเสมอ ให้ผลตอบแทนสูง แย้มปี 61 มั่นใจรายได้สิ้นปีเข้าเป้า 1,400 ล้าน
นายเสริมคุณ คุณาวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีเอ็มโอ จำกัด (มหาชน) หรือ CMO เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2560 ว่า บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,362.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น162.59 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.55% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 43.57 ล้านบาท พลิกกลับมามีกำไร หลังจากที่ปี 59 ขาดทุน 32.4 ล้านบาท สาเหตุมาจากเหตุการณ์ต่างๆ เข้าสู่สภาวะปกติ ภาพรวมตลาดอีเว้นท์ดีขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มงานบันเทิง เช่น งานคอนเสิร์ต และโชว์ต่างๆ ที่ผู้ประกอบการกลับมาจัดต่อเนื่องตลอดปี
นอกจากนี้ รายได้ส่วนหนึ่งมาจากการทำงานในตลาดประเทศกัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม มากขึ้น อาทิ จัดงานคอนเสิร์ต “Road To Electric Dream Festival 2017” ที่ มัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ตลอดจนได้เซ็นต์สัญญาขายแฟรนไชส์สวนสนุก “อิเมจิเนีย เพลย์แลนด์” (Imaginia Playland) ไปยังเมืองโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม บนพื้นที่ 1,800 ตารางเมตร ซึ่งคาดว่าจะก่อสร้างและแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2561
“สำหรับผลประกอบการของ CMO จะเห็นว่ามีทิศทางเติบโตที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือว่าเติบโตได้ดี เป็นอัตราที่น่าพอใจ ซึ่งมาจากการที่บริษัทฯ ได้รับงานโครงการใหญ่ๆ หลายโครงการ บวกกับบริษัทฯ เน้นการบริหารจัดการต้นทุน บริหารความเสี่ยง และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในด้านต่างๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ มีนโยบายจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหุ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นภารกิจสำคัญที่บริษัท จะต้องตอบแทนผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ จึงได้มีมติจ่ายเงินปันผลเพิ่มเติมในอัตรา 0.1 บาทต่อหุ้น บวกกับปันผลที่จ่ายไปแล้วเมื่อกลางปีที่แล้ว ซึ่งจ่ายไป 0.08 บาทต่อหุ้น ซึ่งหากผู้ถือหุ้นอนุมัติเงินปันผลจะเท่ากับเงินปันผลจ่ายทั้งปี 0.18 บาท/หุ้น ถ้าเปรียบเทียบกับราคาหุ้นในปัจจุบัน (ณ วันที่ 26 ก.พ. 61 ราคาหุ้น 2.04 บาท) คิดเป็นอัตราผลตอบแทนถึง 8.82% ซึ่งถือว่าเป็นหุ้นปันผลที่ให้ผลตอบแทนที่ดึงดูดใจ”
ในส่วนของแผนการดำเนินงาน บริษัทฯ จะรักษาความเป็นผู้นำด้านธุรกิจอีเว้นท์ เอเจนซี่ อันดับหนึ่งของประเทศ ทั้งในแง่ของการเป็นผู้บริหารการจัดงาน และในกลุ่มของงานด้านบริการระบบภาพ แสงและเสียง แบบครบวงจร ตลอดจนนำเทคนิคที่ทันสมัยมาใช้ในธุรกิจ ตลอดจนพัฒนาธุรกิจสร้างรายได้ประจำ ที่ไม่ใช่แค่การจัดอีเว้นท์ รวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มจากพื้นที่ Bangkok Creative Playground ซึ่งเป็นที่ตั้งของออฟฟิศ CMO โดยเปิดบริการให้เช่าสถานที่ในการถ่ายทำภาพยนตร์ ,ละคร ตลอดจนหนังโฆษณา ซึ่งที่ผ่านมาก็สร้างรายได้ถึงประมาณ 9 ล้านบาท
ทั้งนี้ แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาสแรกของปี 2561 บริษัทฯ มีแนวโน้มการเติบโตที่ดี ซึ่งได้รับงานระดับใหญ่ ครอบคลุมงานทุกรูปแบบ อาทิเช่น งาน“LINE TV: NEXPLOSION 2018” , งานเปิดตัวรถฟอร์ด “เรนเจอร์ แร็พเตอร์” (Ranger Raptor) ครั้งแรกของโลก ,งานเปิดตัวรถยนต์ All New Suzuki Swift 2018 ตลอดจนได้จัดงานในอาเซียน กับงานเปิดตัวเครื่องยนต์ดีเซลคูโบต้า รุ่น ZT ที่ประเทศกัมพูชา เป็นต้น โดยขณะนี้ บริษัทฯ มีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้ (Backlog) ภายในสิ้นปีนี้ มูลค่าประมาณ 620 ล้านบาท ทำให้มั่นใจว่าในปีนี้รายได้จะเป็นไปตามเป้าที่ตั้งไว้ 1,400 ล้านบาทได้แน่นอน