นายดามพ์ นานา ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงิน บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2560 ของบริษัทฯ สามารถสร้างทั้งรายได้และกำไร ติดต่อกันเป็นไตรมาสที่ 3 ตามความคาดหมาย สวนทางสภาพเศรษฐกิจโดยรวมที่ยังคงชะลอตัว และมีแนวโน้มไตรมาส 4 ทำกำไรได้ต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 บริษัทฯ ทำตัวเลขทุบสถิติทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น กำไรสุทธิ 123.8 ล้านบาท พุ่งทะยาน 303% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน, อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงถึง 42.5% มาอยู่ที่ 423.3 ล้านบาท และรายได้รวม 995.7 ล้านบาท เติบโตกว่า 50% จากปีก่อน เป็นผลจากรายได้ช่อง 8 ที่เพิ่มขึ้นและการบริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และธุรกิจสุขภาพและความงามมีรายได้เติบโตเกือบ 800% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนและทำมาร์จิ้นได้ระดับสูง
นอกจากนี้ ธุรกิจสื่อนำโดย “ช่อง 8” รั้งอันดับท็อปไฟว์ทีวีระดับประเทศตามแผนที่วางไว้ แต่ละรายการที่ออกอากาศได้รับความนิยมสูงดันเรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์วิ่งกระฉูดต่อเนื่อง อาทิ ช่วงไพรม์ไทม์เวลาเช้าของทุกวันได้รายการ “คุยข่าวเช้าช่อง 8” เป็นแม่เหล็กดึงดูดสายตาผู้ชม โดยเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ครองเรตติ้งอันดับ 1 ของประเทศ และไพรม์ไทม์ช่วงเย็น ทั้ง “คุยข่าวเย็นช่อง 8” ต่อด้วยซีรีส์บอลลีวู้ดฟอร์มมหึมาจากอินเดีย “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างงดงามมีจำนวนผู้ชมสูงสุดร่วม 3 ล้านคน รวมถึง ละครค่ำที่มีเรตติ้งดีขึ้นมาก ดึงเรตติ้งไพรม์ไทม์ช่วงเย็นถึงค่ำขึ้นยกแผง
ทั้งนี้ มองว่าทิศทางการดำเนินงานช่วงไตรมาส 4 มีแนวโน้มบวกยิ่งขึ้น จากการจับจ่ายซื้อสินค้าคึกคักต้อนรับเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลดีต่อยอดขาย “ไลฟ์สตาร์” จึงเตรียมออกสินค้าใหม่หลายรายการและจัดแคมเปญส่งเสริมการขายรองรับเรียบร้อยแล้ว รวมถึงพันธมิตรสินค้าใหม่ๆ ให้ความสนใจขายสินค้าผ่านช่องทาง “1781” คึกคัก โดยในไตรมาส 4 วางแผนออกสินค้าเพิ่มเติมกว่า 20 รายการ รวมสินค้าที่จะวางจำหน่ายในปีนี้ทั้งสิ้นเกือบ 40 รายการ ขณะเดียวกันเจ้าของสินค้าส่วนใหญ่นิยมช่วงชิงพื้นที่โฆษณาเร่งปั้มเป้าท้ายปี ส่งผลดีไปยังธุรกิจสื่ออย่าง “ช่อง 8” โดยผลการสำรวจเอจีบี นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช ระบุว่า กลุ่มทีวีดิจิตอลรายใหม่ปรับตัวดีขึ้น เม็ดเงินโฆษณาไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า เร่งปรับคอนเทนต์ทั้งข่าว กีฬา ละคร และซีรีส์ต่างประเทศให้ยืนเรตติ้งอย่างสวยงามในฐานะทีวีช่องใหญ่ และเร่งขยายฐานผู้ชมทั่วประเทศ ให้สอดคล้องกับการส่งสัญญาณธุรกิจสื่อที่ฟื้นตัว
“บริษัทเดินหน้าเต็มลูกสูบเตรียมข้อมูลยื่นเรื่องต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อย้ายหมวดจากสื่อเป็นพาณิชย์ จากอานิสงค์ของรายได้ธุรกิจสุขภาพและความงามที่คาดว่าสิ้นปีนี้จะเติบโตเกิน 600% เมื่อเทียบกับปีก่อน และทำมาร์จิ้นได้สูงกว่าคู่แข่งในตลาด ทำให้ปัจจุบันเป็นตัวทำกำไรสูงสุดของบริษัท” นายดามพ์ กล่าว