แลนดี้ โฮม วางเป้าหมายปี 2561 โกยยอดขายให้ได้ 1,500 ล้าน ด้วย 3 กลยุทธ์สำคัญ หลังจากปีที่ผ่านมาทำยอดขายเติบโต 25% เดินหน้าเจาะตลาดบ้านหรู 15 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมกับรับสังคมผู้สูงอายุเปิด 3 แบบบ้านใหม่รองรับตลาด
1. รวดเร็ว ฉับไวในทุกช่องทางการสื่อสาร พัฒนาหน่วยงาน Call Center ในการสื่อสารในทุกช่องทางการติดต่อแบบออนไลน์
2. มุ่งความสำคัญสู่การบริหารจัดการระบบฐานข้อมูล CRM
การนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์ เพื่อศึกษาความต้องการที่แตกต่างกัน โดยประยุกต์ใช้ในการสื่อสารและนำเสนอบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
3. สร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด
โดยบริษัทคาดว่าในปีนี้จะมียอดขาย 1,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมามียอดขาย 1,200 ล้านบาท ส่วนแนวโน้มราคาบ้านในปีนี้ภาพรวมตลาดน่าจะปรับราคาขึ้นมากกว่า 5% จากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ และราคาวัสดุก่อสร้าง แต่แลนดี้ โฮม จะยังคงตรึงราคา แต่หากจะมีการปรับราคาขึ้นภายในครึ่งปีแรกก็จะไม่เกินอัตรา 3%
สำหรับผลประกอบการในปีที่ผ่านมา บริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ 1,200 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อนหน้า 25 % แบ่งเป็นบ้านระดับราคาต่ำกว่า 5 ล้านบาทสัดส่วน 30% ระดับราคา 5-8 ล้านบาทสัดส่วน 30% ระดับราคา 8-10 ล้านบาทสัดส่วน 5% และระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไปสัดส่วน 35% โดยตัวเลขที่น่าสนใจในปีที่ผ่านมา คือบ้านระดับราคา 10 ล้านบาทขึ้นไป เป็นที่สนใจของกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านสูงสุด เป็นผลจากการพัฒนาการออกแบบและฟังก์ชั่นของแบบบ้านในระดับราคาดังกล่าวได้ตอบโจทย์ตรงกับความต้องการของลูกค้า โดยยอดขายที่ได้ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลคิดเป็น 80% และต่างจังหวัดคิดเป็น 20% โดยยอดขายในปี 60
“Landy Luxury เป็นกลุ่มบ้านหลังใหญ่ในระดับราคา 15 ล้านบาทขึ้นไป ที่มีจุดเด่นทางด้านความครบครัน คุ้มค่าของฟังก์ชั่นการใช้งาน เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่ต้องการได้คฤหาสน์หลังใหญ่ แต่ไม่มีความรู้ด้านสถาปัตยกรรมการออกแบบ LandyLuxruy จะช่วยตอบโจทย์ลูกค้ากลุ่มดังกล่าว เพราะสถาปนิกของแลนดี้ โฮม ได้ทำการวิจัย และพัฒนาฟังก์ชั่นที่ดีที่สุด กับงานออกแบบบ้านที่เน้นความงามสง่า โอ่อ่าและภูมิฐาน ลูกค้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลาในการออกแบบบ้านใหม่ เพียงเลือกจากแบบบ้านมาตรฐาน Landy Luxury ที่ออกแบบไว้แล้ว ก็จะได้คฤหาสน์หลังใหญ่ที่มีความสมบูรณ์ พร้อมก่อสร้างและอยู่อาศัยได้ทันที”
นอกจากนี้ เพื่อเป็นการต่อยอดนวัตกรรมบ้านผู้สูงอายุ แลนดี้ โฮมยังออกแบบบ้านเพื่อผู้สูงอายุ รองรับสังคมผู้สูงอายุในอนาคต กับแบบบ้าน 1. The Haus พื้นที่ใช้สอย 290 ตร.ม. 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 2. Royal Oak พื้นที่ใช้สอย 287 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ และ 3.Notting Hill พื้นที่ใช้สอย 517 ตร.ม. 4ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
โดยแบบบ้านทั้ง 3 หลังได้คำนึงถึงการออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งาน ที่เน้นความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยเป็นสำคัญ เช่นการลดพื้นที่ต่างระดับในส่วนที่ผู้สูงอายุใช้งานเป็นประจำ ตลอดจนเสริมทางลาด พร้อมขยายความกว้างบริเวณทางเดินให้เพียงพอต่อการใช้รถเข็น Wheelchair และคัดสรรวัสดุ ตลอดจนสุขภัณฑ์ที่สามารถรองรับความต้องการของผู้สูงอายุได้อย่างดี และนอกจากนี้ยังมีแบบบ้าน Victoria, Kensington, Hyde Park และ Madeleine ที่พัฒนารูปแบบและฟังก์ชั่นการใช้งานให้สามารถตอบสนองความต้องการแก่ลูกค้าในยุคปัจจุบันได้ดียิ่งขึ้น
ทั้งนี้การบริการก็ถือเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สอดรับกับนโยบายในการสร้างความประทับใจในทุกจุดบริการ ฝ่ายก่อสร้างก็ถือเป็นส่วนงานที่ต้องพบปะลูกค้าบ่อยกว่าหน่วยงานอื่น จึงพัฒนามาตฐานการบริการ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดี ด้วยการดูแลงานก่อสร้าง รายงาน Process การก่อสร้างแก่ลูกค้าอย่างใกล้ชิด