ออฟฟิศใหม่จ๊อบส์ ดีบี
พาชม ออฟฟิศใหม่จ๊อบส์ ดีบี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ณ เกษร ทาวเวอร์ เชื่อมต่อกับความสะดวกสบายมากมายในเมือง ตอบโจทย์ชีวิตการทำงานและความมีไลฟ์สไตล์เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว พร้อมตกแต่งและจัดสำนักงานภายใต้แนวคิด People-first Culture ที่ให้ความสำคัญกับความต้องการของพนักงานเป็นหลัก เพราะพนักงานไม่ได้เป็นเพียงแค่ฟันเฟืองในองค์กร แต่เป็นทรัพยากรคน ที่เป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้
นางสาวดวงพร พรหมอ่อน กรรมการผู้จัดการ บริษัท จ๊อบส์ ดีบี ประเทศไทย จำกัด หรือ JobsDB Thailand ภายใต้กลุ่มบริษัท SEEK (ซีค) แพลตฟอร์มหางานของเอเชีย เปิดเผยว่า นโยบายของ “SEEK” ทั่วโลก คือการดูแลพนักงานให้มีความสุข และมีความพึงพอใจในการทำงาน รวมถึงการสนับสนุนความต้องการของพนักงาน ให้เข้ามาทำงานได้อย่างสุขใจออกมาอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านนโยบายในการทำงานต่าง ๆ อาทิ การปรับวันเข้างาน และปรับเวลาการทำงานให้มีความยืดหยุ่น การกำหนดนโยบายที่ส่งเสริมสุขภาพกายและสุขภาพใจของพนักงานให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รวมถึงการออกแบบสำนักงาน โดยคำนึงจากความต้องการและการใช้งานจริงของพนักงานเป็นหลัก เพื่อให้คนทำงานรู้สึก comfortable และ feel like home มากที่สุด ภายใต้แนวคิด People-first Culture ที่สามารถทำให้เกิดขึ้นจริงได้ ซึ่งก็นับเป็นตัวอย่างให้กับคู่ค้า และพาร์ทเนอร์ต่างๆ ให้คำนึงถึงสภาวะร่างกายและจิตใจของพนักงานเป็นหลักที่จะส่งผลให้งานมีประสิทธิภาพและอยู่กับองค์กรอย่างยั่งยืน ด้วยเช่นกัน
นอกจากนั้นแล้ว จุดเด่นอีกประการหนึ่งของการออกแบบสำนักงานของ JobsDB by SEEK คือ ในแต่ละประเทศจะการตกแต่งสำนักงานให้สะท้อนถึงเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ และสำหรับการตกแต่งออฟฟิศแห่งใหม่ในประเทศไทยนี้ เราต้องการให้มีบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และมีรูปแบบบ่งบอกสัญลักษณ์ความเป็นไทย
การให้ความสำคัญกับการจัดสภาพแวดล้อมในองค์กร จากแนวคิด People-first Culture ผสมผสานกับศิลปะสมัยใหม่ของไทย เป็นสิ่งที่ JobsDB Thailand ให้ความสำคัญเสมอมา
JobsDB Thailand ได้สะท้อนให้เห็นว่า สิ่งเหล่านี้สามารถนำมาปรับใช้ในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ได้เป็นเพียงแค่แนวคิดเท่านั้น ซึ่งองค์กรสมัยใหม่ในปัจจุบันก็สามารถนำเอาแนวคิดเช่นนี้ ไปลองปรับใช้กับองค์กร ได้เช่นเดียวกัน เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจ สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงานให้กับพนักงาน สนับสนุนให้พนักงานเกิดประสิทธิภาพในการทำงานตลอดจนการสนับสนุนพนักงานด้วยแนวทางที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตของผู้คนเป็นอันดับแรกอย่างแท้จริง เพื่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืน
ดึง EERPITCH ดีไซน์ออฟฟิศ
โดยออฟฟิศใหม่ ได้ศิลปินสตรีทอาร์ตด้าน Typography ชื่อดังของไทยอย่าง คุณเบียร์ ภิชญ สถาพรวจนา หรือที่รู้จักกันในนาม BEERPITCH มาร่วมออกแบบศิลปะ และร่วมดีไซน์ตกแต่งในสำนักงานในครั้งนี้
นายภิชญ สถาพรวจนา หรือ BEERPITCH นักออกแบบ Typography กล่าวว่า การสร้างสรรค์ผลงาน การตกแต่งดีไซน์ให้ JobsDB Thailand ในครั้งนี้ว่าได้รับแรงบันดาลใจจากเอกลักษณ์ความเป็นไทย ถ่ายทอดผ่านงานออกแบบตัวอักษร Typography art 3 คำ คือ อร่อย สนุก สุขใจ
AROI ศิลปินเล่าเรื่องราวของความอร่อยด้วย graphic สนุกๆของอาหารคาวเช่น ต้มยำกุ้ง ผัดไทย ingredients ต่างๆ และข้าวของเครื่องใช้บนโต๊ะอาหารแบบไทยๆ อร่อยของหวาน เช่น ข้าวเหนียวมะม่วง ขนมและผลไม้ไทย ที่เป็นที่ชื่นชอบของทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ จานชามเบญจรงค์ที่สวยงาม ฯลฯ
SANUK ได้แรงบันดาลใจมาจากการละเล่นและประเพณีต่างๆ ของไทย สงกรานต์ ผีตาโขน หนังตะลุงหนังใหญ่ ดนตรีไทย รวมไปถึงมวยไทย รถถีบ รถตุ๊กๆ ฯลฯ ต้องการให้ชาวต่างชาติได้รู้จักวัฒนธรรมประเพณีของไทยมากขึ้นและรู้สึกสนุกร่วมไปกับผลงาน
SUKJAI ได้แรงบันดาลใจมาจากคำว่า Thailand, Land of smile ต้องการส่งผ่านรอยยิ้มที่เป็นมิตรของคนไทยผ่านงานออกแบบตัวอักษร ถ่ายทอดผ่านงานกราฟิกที่ดูร่วมสมัยและมีความขี้เล่นซ่อนอยู่
โดยทั้ง 3 คำนี้ได้ถูกถ่ายทอดออกมาเป็น Design 6 แบบ กระจายอยู่ในแต่ละโซนของการทำงาน เช่น AROI จะถูกจะวางไว้ในโซนพื้นที่ส่วนกลาง และ Canteen เพื่อให้บรรยากาศมีความสนุกและผ่อนคลาย ยามพักผ่อน หรือ รับประทานอาหารกันของพนักงาน , SANUK และ SUKJAI ก็จะใช้ตกแต่งในส่วนของพื้นที่ออฟฟิศ สำนักงาน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและผ่อนคลายในระหว่างการทำงานให้กับพนักงาน เป็นต้น
ในด้านของการออกแบบ ตกแต่ง และจัดวางพื้นที่ภายในสำนักงาน ได้จัดเป็นโซนนั่งทำงาน แบบ Hot Desk ที่ไม่มีที่นั่งประจำ สามารถนำคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อกับหน้าจอมอนิเตอร์ใช้งานร่วมกับโต๊ะปรับระดับได้และเก้าอี้ที่เลือกมาให้เหมาะสมกับสรีระ ลดโอกาสการเป็นออฟฟิศซินโดรมได้ รองรับการปรับเปลี่ยนอิริยาบถในการทำงานของพนักงานได้หลากหลายตามความพอใจของแต่ละบุคคล ซึ่งจะทำให้พนักงานสามารถเลือกพื้นที่ได้เหมาะสมกับความต้องการของตนมากที่สุด
มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางให้เป็นโซนพักผ่อนให้คนทำงานสามารถเข้ามาใช้เพื่อผ่อนคลายระหว่างวัน สามารถเข้าไปนั่งพูดคุยพบปะสังสรรค์กับเพื่อนร่วมงาน มีมุมสำหรับพักรับประทานอาหาร หรือพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมพักผ่อนหย่อนใจให้ตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล
สำหรับคนที่ต้องการสมาธิในการทำงานเป็นพิเศษ มีการจัดสรร ห้องทำงานส่วนตัวให้กับพนักงานทุกคน (Focus room) และเพิ่มพื้นที่เงียบสงบ (Quiet spaces) รวมถึงมีการจัดห้องประชุมขนาดเล็ก ที่สามารถรองรับการสนทนา หรือการประชุมออนไลน์ได้โดยไม่ต้องรบกวนผู้อื่น และมีห้องประชุมขนาดใหญ่ ไว้สำหรับเพื่อรองรับการประชุมภายใน และรองรับลูกค้า รวมถึงพาร์ทเนอร์จากภายนอกองค์กรด้วย
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
–จ๊อบส์ ดีบี เผย 7 อินไซด์ใหม่ล่าสุด มนุษย์เงินเดือน หลังโดนผลกระทบของโควิด-19
–ตลาดแรงงานครึ่งปีแรก นักศึกษาจบใหม่ “ท่องเที่ยว-โรงแรม-การบิน” เตะฝุ่น